Pokemon The Rainbow Badge Pokemon The Rainbow Badge

วันจันทร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2561


Learning Record 2
Monday 22 January 2018

กลุ่มที่ 1 เรื่องพัฒนาการตามวัยของเด็กปฐมวัย
คุณลักษณะตามวัย


      คุณลักษณะตามวัยเป็นความสามารถตามวัยหรือพัฒนาการตามธรรมชาตืเมื่อเด็กมีอายุถึงวัยนั้นๆ ผู้สอนจำเป็นต้องทำความเข้าใจคุณลักษณะตามวัยของเด็กอายุ 3 - 5 ปี

เพื่อนำไปพิจารณาจัดประสบการณ์ให้เด็กแต่ละวัยได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ขณะเดียวกันก็ต้องสังเกตเด็กแต่ละคนซึ่งมีความแตกต่างระหว่างบุคคล เพื่อนำข้อมูลไปช่วยในการพัฒนาเด็กให้เต็มตามความสามารถและศักยภาพ พัฒนาการเด็กในแต่ละช่วงอายุอาจเร็วหรือช้ากว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้และการพัฒนาจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ถ้าสังเกตพบว่าเด็กไม่มีความก้าวหน้าอย่างชัดเจน ต้องพาเด็กไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์เพื่อช่วยเหลือและเเก้ไข

เด็กอายุ 3 ปี

พัฒนาการด้านร่างกาย

กระโดดขึ้นลงอยู่กับที่ได้
รับลูกบอลด้วยมือและลำตัว
เดินขึ้นบันไดสลับเท้าได้
เขียนรูปวงกลมตามแบบได้
ใช้กรรไกรมือเดียวได้ 
 พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ

แสดงอารมณ์ตามความรู้สึก
ชอบจะทำให้ผู้ใหญ่พอใจและรับคำชม
กลัวการพลัดพรากจากผู้เลี้ยงดูใกล้ชิดน้อยลง
พัฒนาการด้านสังคม
รับประทานอาหารได้ด้วยตนเอง
ชอบเล่นเเบบคู่ขนาน
เล่นสมมติได้
รู้จักการรอคอย
พัฒนาการด้านสติปัญญา
สำรวจสิ่งต่างๆที่เหมือนกันและต่างกันได้
บอกชื่อของตนเองได้
ขอความช่วยเหลือเมื่อมีปัญหา
สนทนาโต้ตอบเล่าเรื่องประโยคสั้นๆได้
สนใจนิทานและเรื่องราวต่างๆ
ร้องเพลง ท่องคำกลอน คำคล้องจองง่ายๆและแสดงเลียนเเบบท่าทางได้
รู้จักใช้คำถาม อะไร
สร้างผลงานตามความคิดของตนเองอย่างง่ายๆได้
อยากรู้อยากเห็นทุกอย่างรอบตัว





เด็กอายุ 4 ปี
พัฒนาการด้านร่างกาย

กระโดดขาเดียวอยู่กับที่ได้
รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสองข้าง
เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้
เขียนรูปสี่เหลี่ยมตามแบบได้
ตัดกระดาษตามแนวเส้นตรงได้
กระฉับกระเฉงไม่อยู่เฉย
พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมบางสถานการณ์
เริ่มรู้จักชื่นชมความสามารถเเละผลงานตนเองและของผู้อื่น
ชอบท้าทายผู้ใหญ่
ต้องการให้มีคนฟังคนสนใจ
พัฒนาการด้านสังคม
เล่นร่วมกับคนอื่นได้
รอคอยตามลำดับก่อนหลัง
แบ่งของให้คนอื่น
เก็บของเล่นเข้าที่ได้
พัฒนาการด้านสติปัญญา
จำแนกสิ่งต่างๆด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้
บอกชื่อและนามสกุลของตนเองได้
พยายามแก้ไขด้วยตนเองหลังจากได้รับคำชี้แนะ
สนทนาโต้ตอบเล่าเรื่องเป็นประโยคต่อเนื่องได้
สร้างผลงานตามความคิดของตนเองโดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น
รู้จักใช้คำถามว่าทำไม


เด็กอายุ 5 ปี
พัฒนาการด้านร่างกาย
กระโดดขาเดียวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องได้
รับลูกบอลที่กระดอนขึ้นจากพื้นได้ด้วยมือทั้งสอง
เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้อย่างคล่องแคล่ว
เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้
ตัดกระดาษตามแนวเส้นโค้งที่กำหนด
ใช้กล้ามเนื้อเล็กได้ดี
ยืดตัว คล่องเเคล่ว
พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
แสดงอารมณ์ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ได้เหมาะสม
ชื่นชมความสามารถเเละผลงานตนเองและของผู้อื่น
ยึดตนเองเป็นศูนย์กลางน้อยลง

พัฒนาการด้านสังคม
ปฎิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง
เล่นและทำงานโดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกับผู้อื่นได้
พบผู้ใหญ่รู้จักไหว้ ทำความเคารพ
รู้จักขอบคุณเมื่อรับของจากผู้ใหญ่
รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย
 พัฒนาการด้านสติปัญญา
บอกความแตกต่างของกลิ่น สี เสียง รส รูปร่าง จำแนกและจัดหมวดหมู่สิ่งของได้สิ่งต่างๆด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้
บอกชื่อและนามสกุลและอายุของตนเองได้
พยายามหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง
โต้ตอบเล่าเป็นเรื่องเป็นราวได้
สร้างผลงานตามความคิดของตนเองโดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นและแปลกใหม่
รู้จักใช้คำถามว่าทำไม อย่างไร
เริ่มเข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรม

กลุ่มที่ 2 ความสนใจและความต้องการของเด็กปฐมวัย
ความต้องการ

         ความต้องการเป็นสิ่งจาเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ความต้องการเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดความสมดุล  ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทาให้ร่างกายเกิดความเครียด ไม่เป็นสุข ดังนั้นร่างกายจึงต้องมีการกระทำเกิดขึ้นเพื่อให้ร่างกายกลับสู่สภาวะสมดุลตามปกติ
ชนิดของความต้องการ
1.ความต้องการของแต่ละคน (Individual Needs )
       - ความต้องการทางอินทรีย์
       - ความต้องการที่จะสร้างบุคลิกภาพ
2 ความต้องการที่จะสร้างบุคลิกภาพ
       - ความต้องการที่จะรักคนอื่นและให้คนอื่นรักตน
       - ความต้องการความปลอดภัย
       - ความต้องการการมีส่วนร่วม หรือเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
       - ความต้องการความสัมฤทธิ์ผลหรือต้องการให้บรรลุจุดมุ่งหมายของตน
       - ความต้องการรู้สิ่งต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาสติปัญญา
       - ความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงจากสภาพที่อยู่ปกติให้เป็นสภาพใหม่
       - ความต้องการที่จะรับความพึงพอใจในทางสวยงาม
ความต้องการทางสังคม (Social Need)
         ได้แก่ ความต้องการความปลอดภัยทางเศรษฐกิจ การนับหน้าถือตา ความนิยมชมชื่น ความเป็นมิตรภาพต่อกัน และความต้องการในสมบูรณาการ (Integration) ซึ่งเป็นความต้องการ  ที่เป็นความสุขของชีวิตตามอุดมคติ
ความต้องการของเด็กปฐมวัย
ความต้องการพื้นฐานทางกาย เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่
ความต้องการความอิสระ ควบคู่ไปกับความต้องการพื้นฐานทางกาย
ความต้องการผลสัมฤทธิ์ มักจะต้องการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทั้งสิ้น
ความต้องการประสบการณ์ที่ท้าทาย
ความต้องการมีเพื่อน เด็กปฐมวัยส่วนใหญ่ชอบอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น
       เด็กปฐมวัยจะมีความใจอยู่ช่วงเวลาสั้นๆ ประมาณ 2-3 นาทีตามวัยของเด็ก หากเราจะจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการขอเด็กปฐมวัย และอยากให้เด็กสนใจและเกิดความต้องการเราต้องศึกษาสิ่งที่เด็กสนใจ หรือวิธีการเรียนรู้ของเด็ก นั่นก็คือการที่เด็กได้เป็นผู้ปฏิบัติเอง ได้ลงมือทำเอง เป็นต้น


กลุ่มที่ 3 การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
ความหมายและความสำคัญของเด็กปฐมวัย

เด็กปฐมวัยตามความหมายของ The National Association for Education of

Young Children’s Early Childhood Education Guidelines (Seefeldt & Barbour. 1986 : Preface) ให้ความหมายว่า เด็กปฐมวัยหมายถึง เด็กที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 8 ปี

            ส่วน มาสโซเกลีย (Massoglia. 1977 : 3) กล่าวว่า เด็กปฐมวัย (Early Childhood) เป็นคำที่ใช้เรียกเด็กที่มีอายุตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึง 6 ปี ซึ่งอยู่ในวัยที่คุณภาพของชีวิทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญากำลังเริ่มต้นพัฒนาอย่างเต็มที่หรรษา  นิลวิเชียร (2534 : 1, 51)  กล่าวว่า  เด็กปฐมวัยคือวัยตั้งแต่อายุ 2 ปีถึงอายุ 8 ปี และเรียนอยู่ในระดับชั้นอนุบาล หรือเรียนก่อนเกณฑ์บังคับ ยังครอบคลุมถึงเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งและชั้นประถมศึกษาปีที่สอง

กล่าวโดยสรุป เด็กปฐมวัยหมายถึง เด็กที่มีอายุตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึง 8 ปี ทั้งในระบบและนอกระบบการศึกษา ซึ่งพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญากำลังพัฒนาอย่างเต็มที่



ความสำคัญของเด็กปฐมวัย
            เด็กเป็นทรัพยากรที่มีค่ายิ่งเป็นความหวังของครอบครัว เป็นผู้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมและเป็นมนุษยชาติ เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ อนาคตของประเทศชาติจึงขึ้นอยู่กับคุณภาพของเด็ก เด็กที่มีความสมบูรณ์ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ มีพัฒนาการในทุก ๆ ด้าน ที่เหมาะสมกับวัย ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคมและจริยธรรม จะเป็นผู้ที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขและเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ

            เด็กในวัยเริ่มแรกของชีวิต หรือที่เรียกว่า เด็กปฐมวัยคือ วัยตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 8 ปี จัดได้ว่าเป็นระยะที่สำคัญที่สุดของชีวิต ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม บุคลิกภาพ โดยเฉพาะด้านสติปัญญา จะเจริญมากที่สุดในช่วงนี้ และพัฒนาการใด ๆ ในวัยนี้จะเป็นพื้นฐานที่มีความสำคัญต่อพัฒนาการในช่วงอื่น ๆ ของชีวิตเป็นอย่างมาก  ดังที่นักจิตวิทยาและนักการศึกษาได้กล่าวถึงความสำคัญของเด็กในวัยนี้ดังนี้            ซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud, 1949) นักจิตวิเคราะห์ได้ย้ำให้เห็นว่า วัยเริ่มต้นของชีวิตมนุษย์คือ ระยะ 5 ปีแรกของคนเรา ประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้รับในตอนต้น ๆ ของชีวิตจะมีอิทธิพลต่อชีวิตของคนเราตลอดจนถึงวาระสุดท้าย เขาเชื่อว่าการอบรมเลี้ยงดูในระยะปฐมวัยนันจะมีผลต่อการพัฒนาบุคลิกภาพของเด็กในอนาคต            เบนจามิน เอส บลูม (Benjamin S. Bloom, 1964) ได้รายงานผลการวิจัยของเขาในหนังสือชื่อ ความมั่นคงและเปลี่ยนแปลงในบุคลิกภาพของมนุษย์” (Stability and Change in Human Characteristics) หนังสือเล่มนี้ได้ทำให้นักศึกษาหลาย ๆ ท่านที่มีข้อสงสัยในเรื่องการพัฒนาเด็กปฐมวัยในระยะเริ่มแรกมีความเชื่อมั่นและเข้าใจว่า เด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงขวบปีแรกจะพัฒนาร้อยละ 20 เมื่อมีอายุ 4 ปี จะพัฒนาด้านสติปัญญาถึงร้อยละ 50 และจากช่วงอายุ 48 ปี จะพัฒนาเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 30 รวมเป็น 80 % และที่เหลืออีก 20 % จะอยู่ในช่วง 817 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสติปัญญาของมนุษย์มากว่า 3 ใน 4 จะได้รับการพัฒนาเมื่อเด็ก ซึ่งถ้าหากว่าไม่ได้รับการพัฒนาในด้านสติปัญญาอย่างถูกต้อง ความสามารถในการเรียนรู้อาจจะถูกยับยั้ง บลูมยังพบอีกด้วยว่าสิ่วแวดล้อมมีส่วนสำคัญที่จะทำให้พัฒนาการของบุคคลชะงักงันหรือเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งแสดว่า สิ่งแวดล้อมมีผลต่อพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กในระยะ 6 ปีแรกของชีวิตมากกว่าในระยะอื่น ๆ             อีริคสัน (Erikson, 1967) กล่าวว่า วัยทารกตอนปลายเป็นช่วงที่บุคคลเรียนรู้เจตคติของความมั่นใจหรือไม่มั่นใจ ซึ่งขึ้นอยู่กับการที่พ่อแม่ให้สิ่งที่เด็กต้องการ สำหรับอาหาร การเอาใจใส่ และความรักอย่างชื่นชม เจตคติเหล่านี้ซึ่งเด็กมีอยู่จะคงอยู่มากหรือตลอดชีวิตและสามารถสร้างความรู้ความเข้าใจของคนทั่วไปและสถานการณ์ของบุคคลได้            โจ แอล ฟรอสท์ (Joe L. Frost, 1977)  กล่าวว่า เด็กในช่วง 45 ปีแรกของชีวิต เป็นช่วงเวลาที่ความเจริญงอกงามทางด้านร่างกายและจิตใจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกที่ไวต่ออิทธิพลของสิ่งแวดล้อมภายนอก            อลิซาเบธ เฮอร์ล๊อค (Elizabeth Hurlock, 1959) กล่าวว่า วัยเด็กนับได้ว่าเป็นวัยแห่งวิกฤติการณ์ในการพัฒนาบุคลิกภาพ เป็นระยะสร้างพื้นฐานของจิตใจในวัยผู้ใหญ่ต่อไป บุคลิกภาพในวัยผู้ใหญ่แม้จะมีความแตกต่างไปจากวัยเด็กมาเท่าใดก็ตาม แต่จะเป็นความแตกต่างที่ถือกำเนินจากรากฐานในวัยเด็ก ซึ่งสอดคล้องกับริชาร์ด ซี สปินทอลล์ (Richard C. Spinthall, 1974)  กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีแรกของมนุษย์เป็นช่วงวิกฤติของชีวิต เป็นระยะที่สำคัญที่สุดในการวางรากฐานของบุคลิกภาพ ซึ่งการพัฒนาบุคลิกภาพนั้นเด็กจะต้องการเรียนรู้เพื่อเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงพฤติกรรมที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ได้รับ โดยการตอบสนองนี้มีผลมาจากวุฒิภาวะทางร่างกาย สติปัญญา และประสบการณ์ที่ได้รับจากสภาพแวดล้อม         
จากความเห็นดังกล่าวพอสรุปได้ว่า ช่วงปฐมวัยเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดของชีวิตมนุษย์ เพราะเป็นช่วงที่พัฒนาการทุกด้านเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา การพัฒนาเด็กในช่วงวัยนี้จะเป็นการวางพื้นฐานทางด้านจิตใจ อุปนิสัยและความสามารถ ซึ่งจะมีผลต่อไปในอนาคตของเด็กและของชาติในที่สุด 


กลุ่มที่ 4 รูปแบบการเรียนรู้นวัตกรรมการสอนโปรเจค (Project Approach)

Skills

ทักษะการฟัง
ทักษะการคิดอย่างมีเหตุผล
ทักษะการต่อยอดความรู้
ทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ

Self assessment
แต่งกายถูกต้องตามระเบียบ
Evaluate friends
มาเรียนตรงเวลา ให้ความร่วมมือในการตอบคำถาม
Teacher Evaluation
อาจารย์มาสอนตรงเวลา แต่งกายเหมาะสม เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็น
Classify
ห้องเรียนสะอาดกว้าง  บรรยากาศเหมาะสมกับการเรียน 






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น